𝔽𝕚𝕣𝕖𝕗𝕝𝕪 𝔽𝕠𝕣𝕖𝕤𝕥 𝕊𝕔𝕙𝕠𝕠𝕝
บ้านเรียนธรรมชาติ ไม่ได้หมายความถึงแค่เรียนเรื่องธรรมชาติ แต่หม่าม้าจูนยังหมายความรวมถึง เรียนอย่างเป็นธรรมชาติ เล่นอย่างเป็นธรรมชาติ คิดอย่างเป็นธรรมชาติ ให้ทุกๆอย่างเป็นไปตามธรรมชาติอีกด้วย
หม่าม้าจูนให้ความสำคัญและเคารพกับความเป็นธรรมชาติ และความต้องการทางธรรมชาติที่เด็กๆมีอยู่ในตัวของตัวเองมากๆ และแม่จูนเชื่อมากๆว่าถ้าเด็กๆค้นพบธรรมชาติในตัวของพวกเขา และได้ถูกฝึกและทำความเข้าใจมันอย่างดีแล้ว พวกเขาจะหยั่งรากลึกเช่นเดียวกันกับต้นไม้ มั่นคงและหนักแน่นดั่งภูเขา
เด็กๆทุกคนมีธรรมชาติที่แตกต่างกัน และนั่นคือเสน่ห์ บางคนช่างพูดช่างสนทนา บางคนเป็นนักคิด บางคนชอบการผจญภัย บางคนชอบนั่งอยู่กับจินตนาการ บางคนเขินอายเมื่อพบผู้คนหน้าใหม่ และทุกๆครั้งที่เจอเด็กๆ หม่าม้าจูนจะสังเกตดูว่าอะไรคือธรรมชาติของพวกเขา และสร้างพื้นที่ตรงนี้ให้เด็กๆรู้สึกปลอดภัยและเป็นตัวของตัวเองได้อย่างเป็นธรรมชาติ ใครสนใจหากิ่งไม้สร้างบ้านมากกว่าวาดรูป เราก็สนับสนุนสิ่งเหล่านั้น ใครสนใจวิ่งเล่นมากกว่าฟังนิทาน พวกเขาก็กำลังเรียนรู้ในเรื่องอื่นๆอยู่เช่นกัน ท้ายที่สุดแล้ว หนึ่งบทเรียนที่แม่จูนตั้งไว้ มีบันทึกผลการเรียนรู้ที่หลากหลายมาก จากรอยแผล จากคราบเหงื่อ จากผลงาน จากปราสาทกิ่งไม้ หรือจากเพื่อนๆรอบๆตัวก็เป็นไปได้ หม่าม้าจูนอยากให้พื้นที่ตรงนี้ให้พวกเขาเห็นว่าความเป็นธรรมชาติของพวกเขาถูกให้ความเคารพ และพวกเขาก็กำลังเรียนรู้ที่จะเคารพธรรมชาติของผู้อื่นด้วยเช่นกัน
เด็กๆจึงควรใกล้ชิดกับธรรมชาติให้ได้มากที่สุดในช่วงวัยของพวกเขา เพื่อให้พวกเขาเติบโตท่ามกลางความเป็นธรรมชาติ เมื่อใบไม้เปลี่ยนสีไป เด็กๆอาจจะเข้าใจทุกสิ่งในชีวิตก็ต้องเปลี่ยนแปลงเช่นกัน วันนี้กานติบอกว่า “หม่าม้าวันนี้พระอาทิตย์อารมณ์ไม่ดีเลย อากาศก็เลยร้อนไง” แม่ได้แต่ยิ้ม แล้วเราจะทำยังไงให้เค้าอารมณ์ดีล่ะลูก5555
No responses yet