“เด็กๆเกิดมาเป็นคนคนหนึ่ง พวกเขาไม่ได้กำลังฝึกเป็นผู้ใหญ่ หน้าที่ของพ่อแม่คือค้นหาหนทางที่จะทำให้เด็กๆได้เรียนรู้และเติบโตในฐานะเด็ก ในขณะที่เปิดโลกให้พวกเขารู้จักด้วย” ชาร์ล็อต เมสัน

กานติและหม่ามี้จูนขอทักทายเพื่อนใหม่ทุกท่านไว้ในโพสต์นี้นะคะ ขอบคุณมากๆที่ติดตามเรื่องราว บ้านเรียนธรรมชาติ ของน้องกานติและขอบคุณทุกคนที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่มของ Firefly Forest School – โรงเรียนหิ่งห้อย นะคะ บางคนอาจจะยังไม่รู้จักกัน แม่จูนจึงรวบรวมคำถามทุกๆคนรวมไว้ผ่านบทความนี้นะคะ

นี่คือเรื่องราวของการผจญภัยในเส้นทางสายโฮมสคูล ของน้องกานติ หม่าม้าจูน พ่อโรบิ้น ที่มีจุดเริ่มต้นต้นเหมือนกันกับใครหลายๆคน คืออยากให้ลูกมี curiosity (ความรักในการเรียนรู้) อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติและเติบโตอย่างเป็นธรรมชาติ หม่าม้าอยากร่ายมนต์สร้างห้องเรียนที่เต็มไปด้วยจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ อยากให้เด็กๆกล้าที่จะสำรวจบทเรียนต่างๆ พิสูจน์และตั้งข้อสงสัย ให้หัวใจได้ทำงาน ให้จิตวิญญาณได้เติบโต

💛หลักสูตรที่หม่าม้าจูนใช้ ก็คงจะตามรุ่นพี่นักปฏิวัติโฮมสคูลทุกๆท่านไป คือ ก้าวข้ามขอบเขตและข้อกำหนดต่างๆเอาไว้ และตามหาบทเรียนในแบบฉบับของกานติเอง โดยใช้ความสามารถตามธรรมชาติของลูกเป็นศูนย์กลาง และใช้ทรัพยากรในบ้านและสิ่งที่เป็นแรงบันดาลใจของพวกเราทุกคนในบ้านมาผสมผสานเข้าไป จัดบรรยากาศของบ้านให้มีบรรยากาศที่สนถกสนานและน่าเรียนรู้ แม่จูนกับพ่อโรบิ้นเปิดโรงเรียนสอนศิลปะการแสดง แม่จูนทำงานกับเด็กๆและเยาวชนในด้านของละครสร้างสรรค์ ละครเพื่อการพัฒนาควบคู่กับการเป็นนักแสดง ผู้กำกับและงานถ่ายภาพด้วย

💛เราจึงเลือกแวดล้อมของศิลปะ การเล่าเรื่องและธรรมชาติเป็นบทเรียนหลักในการเรียนรู้ของกานติ และยังได้รับแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่จากแม่ๆ Homeschooling ทั่วโลก โดยเฉพาะรูปแบบของ Nature Study , Forest School ที่แม่จูนชอบมากเป็นพิเศษ และหลายๆท่าน ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Charlotte M. Mason โดยรูปแบบของบ้านหม่าม้าจะมี
ตัวอย่างเช่น
🌲 Nature Study& Science
🎲 Mathematics
🎨The Arts
💫Communication&Laguage
🎸 Music &Instument
🎭Story Telling & drama
📚 Living book
📖 Read aloud
📓 Poetry
🪅Hand Crafts
🪄Life Skills
🗻 Geography
⛹🏻‍♂️ Health & Physical Education
เป็นต้น

ด้วยวิธีการ apply (ประยุกต์) ให้เชื่อมโยงกับวิชาหลัก เช่นคณิตศาสตร์,วิทยาศาสตร์,สังคมศาสตร์,ภาษาศาสตร์,ภูมิศาสตร์,ดาราศาสตร์,ศิลปศาสตร์ เป็นต้น
และสิ่งที่หม่าม้าจูนให้ความสำคัญไม่แพ้กัน คือ

“วิชาแห่งชีวิต” หม่าม้าจะมีกิจกรรมเสริมเช่น ทำอาหาร,ปลูกต้นไม้,ก่อกองไฟ,แคมป์ปิ้ง เป็นต้น

💛สัปดาห์ละหนึ่งตีม ตามอะไรบางครั้งก็ขึ้นอยู่กับลมฟ้าอากาศ บางครั้งก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ บางครั้งก็ขึ้นอยู่กับตัวน้องกานติเอง แผนการเรียนที่เรามีจึงพร้อมที่จะจับสลับหน้า สลับวีคอยู่ตลอดเวลา และนั่นคือความสนุกของหม่าม้าที่จะทำให้ยังไงแต่ละสัปดาห์เกิดเป็นบทเรียนต้องมนตร์ขึ้น

💛การจัดกิจกรรมนอกสถานที่หม่ามี้จัดขึ้นที่สวนรถไฟเป็นเพียงหนึ่งรูปแบบของ หลักสูตรโฮมสคูลของบ้านเราเท่านั้น จุดเริ่มต้นจาก play date ของลูกๆ จนตอนนี้ มันเริ่มกลายเป็น family meeting ไปแล้ว ทุกๆอาทิตย์หม่าม้าจูนจะกระตือรือร้นที่จะจัดเตรียมกิจกรรมไว้รอเด็กๆและตื่นเต้นที่จะได้เจอได้พูดคุยบอกเล่าเรื่องราวกัยผู้ปกครองท่านอื่นๆด้วย และอีกไม่นาน หม่าม้าจูนจะเปิดบ้านต้อนรับทุกคน มาจิบชา อ่านบทกวี พูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวที่มีความหมายร่วมกัน ส่วนของเด็กๆ แม่จูนจะชวนมา ทำดูละคร เล่น puppet เข้าไปผจญภัยในเมืองเวทมนต์กันนะคะ

💓🌲ส่วนใครที่สนใจเรียนหลักสูตรร่วมกับกานติ เป็นเพื่อนร่วมห้อง ร่วมผจญภัย ในหลักสูตรโฮมสคูลของบ้านเรา รอติดตามข่าวนะคะ อีกอึดใจเดียวเท่านั้น แม่จูนคงรับน้องๆ 15 คน ต่อการเรียนไปด้วยกัน 3 วันต่ออาทิตย์ ใครสนใจทักหลังไมค์ไว้ได้เลยนะคะ ตอนนี้เหลือที่ไม่เยอะเลยค่า ขอบคุณที่สนใจและส่งพลังดีๆมาให้จูนทำสิ่งนี้นะคะ พลังงานของทุกคนคือแรงบันดาลใจที่มีพลังสำหรับจูนสุดๆไปเลยค่ะ
🙏🏻☺️💛💚🦋🌲🌸💚🥰

เอาล่ะ ตอบคำถามมากน้อยแค่ไหน ไม่แน่ใจเลย ไว้จูนค่อยแตกรายละเอียดมาเป็นหัวข้อย่อยๆให้อ่านกันบ่อยๆนะคะ จากที่ได้พบพ่อแม่ที่หลากหลายในช่วงนี้ ทั้งเข้ามาปรึกษาทั้งต่อหน้าและในเมสเสจ หลายๆบ้านมีความกังวลและกดดัน เหมือนทุกคนกำลังตามหาสิ่งที่ดีที่สุด และกังวลว่าจะทำมันได้ไม่ดี ไม่แน่ใจว่าจะเลือกหลักสูตรไหน ไม่มั่นใจว่าตัวเองจะทำได้มั้ย แม่จูนอยากจะบอกว่าการเรียนรู้มีอยู่รอบตัวและมันกว้าง มันอิสระ และไร้ขอบเขตจำกัดมากๆเลยค่ะ พ่อแม่คือครูที่รู้ใจลูกที่สุดอยู่แล้วแน่นอนค่า ถ้าคุณเองอยากจะให้ลูกออกผจญภัยในเส้นทางสายนี้ ตัวคุณพ่อคุณแม่เอง ก็ต้องถามตัวเองเช่นกัน ว่าคุณพร้อมแค่ไหนที่จะกล้าออกไปเป็นนักผจญภัยและเป็นนักกล้าเรียนด้วยเช่นกัน ถ้าพร้อมแล้วเราเริ่มจากลุกขึ้นทำให้ “บ้าน” ของเรา ให้เป็นจุดเริ่มต้นในวิถีของการเรียนรู้กันนะคะ หลังจากนั้นก็เริ่มจัดการร่ายมนต์ให้การเรียนรู้ หาแรงบันดาลใจของตัวเองและทำความเข้าใจลูกๆ สังเกตความถนัดของลูกให้เจอ กินโดนัทซักชิ้น พกพลังใจ จินตนาการและความเชื่อ แล้วออกเดินทางกันได้เลยค่า

และสำหรับใครที่ต้องการร่วมกิจกรรม เดี๋ยวแม่จูนจะอัพเดตให้ลงชื่อและสมัครเข้ากลุ่มนะคะ ขอบคุณทุกคนจริงๆจากหัวใจเลยค่ะ








Source

Tags:

25 Responses

  1. ที่สุดของแรงบันดาลใจ ที่สุดของพลังสร้างสรรค์เลยค่า ขอเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตของน้องกานติด้วยนะค้าจูน🥰🥰♥️

  2. ชอบวิธีการเรียนรู้ตามธรรมชาติและ forest school เหมือนกันค่ะ ดีใจมากๆที่แม่จูนทำ forest school และชวนเด็กๆมาเรียนรู้ไปด้วยกัน

  3. อยากให้น้องนะนาย เรียนด้วยจังค่า รอ 2.5 ขวบก่อน ติดตามแม่จูนอยู่นะค้า

  4. เข้าคลาสนี้หมายถึงว่าเด็กๆไปเรียนกับแม่จูน3วันต่อสัปดาห์ หรือพ่อแม่พาลูกไปทำกิจกรรมด้วยกัน3วันต่อสัปดาห์ค่ะ

  5. ถ้ามีโอกาสจะพาเอตาไปเล่นด้วยนะคะ เริ่มจับตัวตนเอตาได้บ้างแล้วกับสิ่งที่เค้าสนใจและหลงรักค่ะ เส้นทางคลายๆบ้านแม่จูนเลยค่ะ สำหรับแผนการเรียนที่ส่งเขตไปไม่เป็นไรเราปรับตามลูกเราได้ ยืดหยุ่นตามความสุขของลูกแต่ไม่หลุดแผนการเรียนรู้ค่ะ

  6. แนวคิดคุณแม่ชอบมากคะ นำมาเป็นแบบอย่างน้องสอนแล้วเด็กที่บ้านมีความสุขมาก

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *