เรื่องราวโฮมสคูลของแม่จูนและน้องกานติค่า_1

“เด็กๆเกิดมาเป็นคนคนหนึ่ง พวกเขาไม่ได้กำลังฝึกเป็นผู้ใหญ่ หน้าที่ของพ่อแม่คือค้นหาหนทางที่จะทำให้เด็กๆได้เรียนรู้และเติบโตในฐานะเด็ก ในขณะที่เปิดโลกให้พวกเขารู้จักด้วย” ชาร์ล็อต เมสัน

กานติและหม่ามี้จูนขอทักทายเพื่อนใหม่ทุกท่านไว้ในโพสต์นี้นะคะ ขอบคุณมากๆที่ติดตามเรื่องราว บ้านเรียนธรรมชาติ ของน้องกานติและขอบคุณทุกคนที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่มของ Firefly Forest School – โรงเรียนหิ่งห้อย นะคะ บางคนอาจจะยังไม่รู้จักกัน แม่จูนจึงรวบรวมคำถามทุกๆคนรวมไว้ผ่านบทความนี้นะคะ

นี่คือเรื่องราวของการผจญภัยในเส้นทางสายโฮมสคูล ของน้องกานติ หม่าม้าจูน พ่อโรบิ้น ที่มีจุดเริ่มต้นต้นเหมือนกันกับใครหลายๆคน คืออยากให้ลูกมี curiosity (ความรักในการเรียนรู้) อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติและเติบโตอย่างเป็นธรรมชาติ หม่าม้าอยากร่ายมนต์สร้างห้องเรียนที่เต็มไปด้วยจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ อยากให้เด็กๆกล้าที่จะสำรวจบทเรียนต่างๆ พิสูจน์และตั้งข้อสงสัย ให้หัวใจได้ทำงาน ให้จิตวิญญาณได้เติบโต

?หลักสูตรที่หม่าม้าจูนใช้ ก็คงจะตามรุ่นพี่นักปฏิวัติโฮมสคูลทุกๆท่านไป คือ ก้าวข้ามขอบเขตและข้อกำหนดต่างๆเอาไว้ และตามหาบทเรียนในแบบฉบับของกานติเอง โดยใช้ความสามารถตามธรรมชาติของลูกเป็นศูนย์กลาง และใช้ทรัพยากรในบ้านและสิ่งที่เป็นแรงบันดาลใจของพวกเราทุกคนในบ้านมาผสมผสานเข้าไป จัดบรรยากาศของบ้านให้มีบรรยากาศที่สนถกสนานและน่าเรียนรู้ แม่จูนกับพ่อโรบิ้นเปิดโรงเรียนสอนศิลปะการแสดง แม่จูนทำงานกับเด็กๆและเยาวชนในด้านของละครสร้างสรรค์ ละครเพื่อการพัฒนาควบคู่กับการเป็นนักแสดง ผู้กำกับและงานถ่ายภาพด้วย

?เราจึงเลือกแวดล้อมของศิลปะ การเล่าเรื่องและธรรมชาติเป็นบทเรียนหลักในการเรียนรู้ของกานติ และยังได้รับแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่จากแม่ๆ Homeschooling ทั่วโลก โดยเฉพาะรูปแบบของ Nature Study , Forest School ที่แม่จูนชอบมากเป็นพิเศษ และหลายๆท่าน ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Charlotte M. Mason โดยรูปแบบของบ้านหม่าม้าจะมีตัวอย่างเช่น

? Nature Study& Science

? Mathematics

?The Arts

?Communication&Language

? Music &Instument

?Story Telling & drama

? Living book

? Read aloud

? Poetry

?Hand Crafts

?Life Skills

? Geography

⛹?‍♂️ Health & Physical Education

เป็นต้น

ด้วยวิธีการ apply (ประยุกต์) ให้เชื่อมโยงกับวิชาหลัก เช่นคณิตศาสตร์,วิทยาศาสตร์,สังคมศาสตร์,ภาษาศาสตร์,ภูมิศาสตร์,ดาราศาสตร์,ศิลปศาสตร์ เป็นต้น

และสิ่งที่หม่าม้าจูนให้ความสำคัญไม่แพ้กัน คือ

“วิชาแห่งชีวิต” หม่าม้าจะมีกิจกรรมเสริมเช่น ทำอาหาร,ปลูกต้นไม้,ก่อกองไฟ,แคมป์ปิ้ง เป็นต้น

?สัปดาห์ละหนึ่งตีม ตามอะไรบางครั้งก็ขึ้นอยู่กับลมฟ้าอากาศ บางครั้งก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ บางครั้งก็ขึ้นอยู่กับตัวน้องกานติเอง แผนการเรียนที่เรามีจึงพร้อมที่จะจับสลับหน้า สลับวีคอยู่ตลอดเวลา และนั่นคือความสนุกของหม่าม้าที่จะทำให้ยังไงแต่ละสัปดาห์เกิดเป็นบทเรียนต้องมนตร์ขึ้น

?การจัดกิจกรรมนอกสถานที่หม่ามี้จัดขึ้นที่สวนรถไฟเป็นเพียงหนึ่งรูปแบบของ หลักสูตรโฮมสคูลของบ้านเราเท่านั้น จุดเริ่มต้นจาก play date ของลูกๆ จนตอนนี้ มันเริ่มกลายเป็น family meeting ไปแล้ว ทุกๆอาทิตย์หม่าม้าจูนจะกระตือรือร้นที่จะจัดเตรียมกิจกรรมไว้รอเด็กๆและตื่นเต้นที่จะได้เจอได้พูดคุยบอกเล่าเรื่องราวกัยผู้ปกครองท่านอื่นๆด้วย และอีกไม่นาน หม่าม้าจูนจะเปิดบ้านต้อนรับทุกคน มาจิบชา อ่านบทกวี พูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวที่มีความหมายร่วมกัน ส่วนของเด็กๆ แม่จูนจะชวนมา ทำดูละคร เล่น puppet เข้าไปผจญภัยในเมืองเวทมนต์กันนะคะ

??ส่วนใครที่สนใจเรียนหลักสูตรร่วมกับกานติ เป็นเพื่อนร่วมห้อง ร่วมผจญภัย ในหลักสูตรโฮมสคูลของบ้านเรา รอติดตามข่าวนะคะ อีกอึดใจเดียวเท่านั้น แม่จูนคงรับน้องๆ 15 คน ต่อการเรียนไปด้วยกัน 3 วันต่ออาทิตย์ ใครสนใจทักหลังไมค์ไว้ได้เลยนะคะ ตอนนี้เหลือที่ไม่เยอะเลยค่า ขอบคุณที่สนใจและส่งพลังดีๆมาให้จูนทำสิ่งนี้นะคะ พลังงานของทุกคนคือแรงบันดาลใจที่มีพลังสำหรับจูนสุดๆไปเลยค่ะ

??☺️???????

เอาล่ะ ตอบคำถามมากน้อยแค่ไหน ไม่แน่ใจเลย ไว้จูนค่อยแตกรายละเอียดมาเป็นหัวข้อย่อยๆให้อ่านกันบ่อยๆนะคะ จากที่ได้พบพ่อแม่ที่หลากหลายในช่วงนี้ ทั้งเข้ามาปรึกษาทั้งต่อหน้าและในเมสเสจ หลายๆบ้านมีความกังวลและกดดัน เหมือนทุกคนกำลังตามหาสิ่งที่ดีที่สุด และกังวลว่าจะทำมันได้ไม่ดี ไม่แน่ใจว่าจะเลือกหลักสูตรไหน ไม่มั่นใจว่าตัวเองจะทำได้มั้ย แม่จูนอยากจะบอกว่าการเรียนรู้มีอยู่รอบตัวและมันกว้าง มันอิสระ และไร้ขอบเขตจำกัดมากๆเลยค่ะ พ่อแม่คือครูที่รู้ใจลูกที่สุดอยู่แล้วแน่นอนค่า ถ้าคุณเองอยากจะให้ลูกออกผจญภัยในเส้นทางสายนี้ ตัวคุณพ่อคุณแม่เอง ก็ต้องถามตัวเองเช่นกัน ว่าคุณพร้อมแค่ไหนที่จะกล้าออกไปเป็นนักผจญภัยและเป็นนักกล้าเรียนด้วยเช่นกัน ถ้าพร้อมแล้วเราเริ่มจากลุกขึ้นทำให้ “บ้าน” ของเรา ให้เป็นจุดเริ่มต้นในวิถีของการเรียนรู้กันนะคะ หลังจากนั้นก็เริ่มจัดการร่ายมนต์ให้การเรียนรู้ หาแรงบันดาลใจของตัวเองและทำความเข้าใจลูกๆ สังเกตความถนัดของลูกให้เจอ กินโดนัทซักชิ้น พกพลังใจ จินตนาการและความเชื่อ แล้วออกเดินทางกันได้เลยค่า

และสำหรับใครที่ต้องการร่วมกิจกรรม เดี๋ยวแม่จูนจะอัพเดตให้ลงชื่อและสมัครเข้ากลุ่มนะคะ ขอบคุณทุกคนจริงๆจากหัวใจเลยค่ะ

Gandhi ‘s story

Tags:

No responses yet

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *